ฝีมือไทย หัวใจอินเตอร์

จากธุรกิจตุ๊กตาประดิษฐ์ทำมือที่ขายตามห้างร้านภายในประเทศ สู่เส้นทางอุตสาหกรรมการส่งออกที่มีลูกค้ารายใหญ่ทั้งทางฝั่งยุโรป อเมริกา และอาเซียน

แชร์โพสต์นี้

cover-ฝีมือไทย หัวใจอินเตอร์

Thai Artborne คือหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกที่ยืนหยัดอยู่ในวงการสินค้าตกแต่งมายาวนานถึง 30 ปี โดยใช้หลักคิด “เข้าใจตัวเรา เข้าใจตลาด”

คุณเจี๊ยบ กุลรวี ถาวรพาณิชย์ ผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจ ผู้สานต่อกิจการรุ่นที่ 2 เล่าถึงที่มาของการพา Thai Artborne ออกสู่ตลาดต่างประเทศ

“หลังจากที่ตุ๊กตาเราได้รับการตอบรับในประเทศระดับหนึ่ง มีหลายเสียงแนะนำว่าสินค้าเรามีคุณภาพพอที่จะไปเปิดตลาดต่างประเทศได้ คุณแม่จึงตัดสินใจไปออกงานเทศกาล Christmas World ที่เยอรมนีกับกรมส่งเสริมการส่งออกเป็นที่แรก เพราะที่นั่นเป็นตลาดใหญ่ในวงการตุ๊กตาประดิษฐ์และของตกแต่ง มีคนจากทั่วโลกไปหาซื้อของประดับจากงานนี้เยอะมาก และเราก็ได้ลูกค้าจากที่นี่”

ถึงแม้ตุ๊กตาของ Thai Artborne จะมีรูปลักษณ์แบบตะวันตกและใช้วัสดุนำเข้าจากต่างประเทศบ้าง แต่ฝีมือการประดิษฐ์ที่ละเอียดแบบไทยก็สร้างความโดดเด่นให้ชิ้นงานได้อย่างชัดเจน

“งานของเราเน้นรายละเอียดมาก เนื้อผ้า วัสดุ รอยเย็บ สีสัน เส้นด้ายต่างๆ ต้องเป็นไปตามที่ตกลงกับลูกค้า ฟีดแบคจากลูกค้ามักบอกว่าสินค้าเรามีคุณภาพ ไว้ใจได้ ถึงแม้หน้าตาจะดูเป็นตุ๊กตาตะวันตก แต่ความประณีตบ่งบอกว่าเป็นฝีมือคนไทย”

หลังจากมีลูกค้าเจ้าประจำทั้งฝั่งยุโรปและอเมริกา คุณเจี๊ยบเล็งเห็นช่องทางการเพิ่มตลาดในอาเซียนด้วยเช่นกัน

“ปัจจุบันลูกค้าฝั่งเอเชียที่มีในมือคือ ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย ความตั้งใจตอนนี้คืออยากมีลูกค้าฝั่งอาเซียนเพิ่มขึ้น เช่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เพราะเป็นกลุ่มที่มีคนนับถือศาสนาคริสต์เยอะอยู่เหมือนกัน สินค้าเราค่อนข้างตอบโจทย์วัฒนธรรมชาวคริสต์ เพราะเป็นสินค้าที่เขาใช้ตกแต่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ฮาโลวีน อีสเตอร์ การทำตลาดอาเซียนเราจะเป็นแนว B2C มากกว่า เป็นการประดับในบ้าน ในขณะที่ฝั่งยุโรปและอเมริกาเราจะได้แบบ B2B มีการสั่งล็อตใหญ่ กลุ่มโรงแรม และห้างมักจะสั่งเพื่อไปตกแต่งสถานที่”

หากผู้ประกอบการหน้าใหม่สนใจเข้าสู่อุตสาหกรรมสินค้าตกแต่ง คุณเจี๊ยบแนะนำว่าการสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าเป็นเรื่องสำคัญ

“จริงๆ ก็เหมือนอุตสาหกรรมอื่นๆ ผู้เล่นหน้าใหม่ต้องสร้างจุดเด่นของตัวเองให้ได้ เพราะถ้าผลิตของที่ซ้ำกับเจ้าเก่า ๆ ส่วนใหญ่ลูกค้ายังเชื่อใจในการให้บริการ การเข้าใจงาน และการมีตัวตนจริงของเจ้าเก่า ๆ สิ่งพวกนี้ยังสำคัญอยู่มาก เพราะเวลาส่งออก นั่นหมายถึงสินค้า scale ใหญ่ ไม่ใช่แค่ซื้อเป็น trial package ที่มีแค่ 100 ชิ้น ดังนั้นความเชื่อถือได้ในภาพรวม สเปคงาน การทำได้ตามจำนวน และที่สำคัญที่สุด วิธีคิดให้เข้าใจมาตรฐานโลก”

คุณเจี๊ยบฝากทิ้งท้ายว่า “การตั้งวิธีคิดว่าทำอย่างไรจะให้ตลาดโลกยอมรับของไทยอาจจะไม่ถูกต้องนัก แต่ถ้าคิดว่าเราจะทำอย่างไรที่จะผลิตของไทยให้ตอบโจทย์ตลาดโลกได้น่าจะใช่กว่า เพราะถ้าคุณเข้าใจแต่ตัวเอง แต่ไม่เข้าใจความต้องการของลูกค้า สินค้าที่ทำมาก็อาจจะไร้ค่าได้เลย”

สนใจพัฒนาตลาดของตกแต่งบ้าน ติดต่อสำนักส่งเสริมการค้าไลฟ์สไตล์ โทร. 02 507 8363

บทความที่เกี่ยวข้อง