ศศธรณ์ ณ สงขลา ผู้บริหารบริษัท ออเทนติค ไทยสปา จำกัด เจ้าของแบรนด์ “สบายอารมณ์” ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark เล่าว่า กว่าจะมาเป็นสินค้าแต่ละคอลเล็กชัน เธอต้องวางคอนเซ็ปต์พร้อมลงรายละเอียดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เลือกต้นกำเนิดของกลิ่น เช่น กลิ่นมะม่วง กลิ่นมะพร้าว จะต้องใช้พันธุ์ไหน จากพื้นที่ใดของประเทศที่ให้กลิ่นหอมแบบที่ต้องการ และที่สำคัญจะต้องมาจากต้นทางที่มีความสุข เธอและทีมงานจึงได้เดินทางไปทั่วเมืองไทย เพื่อเสาะหาวัตถุดิบท้องถิ่นจากเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ เพราะตระหนักว่านี่เป็นวิถีแห่งความสุขที่ยั่งยืน
“สบายอารมณ์ขายความสุข เราใส่ใจกับการคัดสรรวัตถุดิบ สินค้าต้องมาจากแหล่งที่มีความสุข เราอยากได้กลิ่นที่มาจากธรรมชาติจริง ๆ และเลือกใช้วัตถุดิบในประเทศทั้งหมดเป็นผลผลิตของเกษตรกรที่มีความสุข ทำเกษตรที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม จากการลงพื้นที่จริง เห็นได้ชัดเลยว่า คนทำเกษตรตามหลักปรัชญาพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชมีความสุขอย่างแท้จริง”
จากความทุ่มเทดังกล่าวทำให้สบายอารมณ์สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ นอกจากจะมีคุณสมบัติครบถ้วนตามแบบฉบับของสินค้าประเภทนี้แล้ว ยังได้ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยแท้ ๆ เช่น กลิ่นมะม่วงมหาชนกจากลำพูน กลิ่นมะพร้าวจากเกาะสมุยกลิ่นกุหลาบจุฬาลงกรณ์จากเชียงใหม่ พร้อมออกแบบบรรจุภัณฑ์อย่างพิถีพิถัน
“ยกตัวอย่างเช่นคอลเล็กชันมะพร้าว บนฉลากเราทำเป็นใบมะพร้าวมาสานเป็นรูปปลาใส่เรื่องราววิถีวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้าไปในตัวบรรจุภัณฑ์ ตอนนี้คนทั่วไปอาจรู้จักสมุยในฐานะเมืองท่องเที่ยวชายทะเล แต่แท้จริงแล้ว ที่นี่เคยขึ้นชื่อเรื่องมะพร้าวมาก และปัจจุบันก็ยังมีกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกมะพร้าวทำมาหากินอยู่บนเกาะด้วย”
ปัจจุบัน สบายอารมณ์วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกลิ่นพิเศษกว่า 10 คอลเล็กชัน และน้ำหอมใน ร้านบูทส์ ในประเทศไทยกว่า 200 สาขา และส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่น รัสเซียมาเลเซีย ฮ่องกง และมาเก๊า รวมถึงเปิดรีเทลช็อปสบายอารมณ์ในหลายเมืองใหญ่ของญี่ปุ่น เช่น โตเกียว และโอซาก้า และในมาเลเซีย
ถึงวันนี้ ศศธรณ์ได้นำสบายอารมณ์เดินทางบนถนนธุรกิจมาแล้ว 12 ปี และเธอมั่นใจว่า ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายแรกแล้ว ซึ่งเธอต้องการให้ “สบายอารมณ์” เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ลูกค้าคนไทยเลือกใช้และเป็นของฝากยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ขณะเดียวกัน เธอก็ต้องการพาสบายอารมณ์ไปสู่อีกเป้าหมายในอนาคต คือ ทำให้คนซื้อรู้สึกภูมิใจที่ได้ซื้อสินค้าที่มีคุณค่าต่อสังคม ได้ส่งต่อความสุขตั้งแต่คนต้นน้ำจนถึงปลายน้ำได้อย่างแท้จริง
ในอนาคต ศศธรณ์บอกว่า สบายอารมณ์ ต้องการมีส่วนร่วมกับคนต้นน้ำ คือ เกษตรกรเจ้าของผลผลิตมากขึ้น และช่วยเหลือชุมชนได้มากกว่าที่ผ่านมา
“การทำธุรกิจไม่จำเป็นต้องรอให้มีกำไรมหาศาลก่อนที่จะตอบแทนสังคม แต่ต้องคิดถึงสังคมตั้งแต่เริ่มแรก สามารถช่วยสังคมไปพร้อมกับการทำธุรกิจตั้งแต่แรก ตอนนี้ลูกค้าเริ่มตระหนักเรื่องเหล่านี้ พวกเขาเลือกใช้แบรนด์ที่มีคุณค่าต่อสังคม ดิฉันบอกกับทีมงานเสมอว่า เราไม่ได้ทำงานเพื่อเมคมันนี่หรือหารายได้เท่านั้น แต่ต้องทำงานที่มีคุณค่ามากกว่านั้น ต้องมีคุณค่าต่อสังคม” ศศธรณ์ย้ำถึงแนวทางสร้างความสุขสไตล์ “สบายอารมณ์”
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “สบายอารมณ์”
ได้ที่ www.sabai-arom.com
สนใจสอบถามรายละเอียด Thailand Trust Mark
ติดต่อ 02-507-8266, 02-507-8287
อีเมล: ttm@ditp.go.th
