ในยุคที่ธุรกิจกำลังแข่งขันกันอย่างเข้มข้น “เงื่อนไข” หรือ “ข้อจำกัด” ใดที่จะเป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจและการค้าระหว่างประเทศในปัจจุบันได้ถูกปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจมากที่สุด
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคือหนึ่งตัวอย่างสำคัญของหน่วยงานที่ปรับมาตรการด้านภาษี เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศให้เป็นไปอย่างราบรื่น โดยได้พัฒนาระบบการจัดการคลังสินค้ารูปแบบใหม่ในลักษณะเขตปลอดอากร หรือฟรีโซน (Fee Zone) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจัดการคลังสินค้าทั้งขาเข้า ขาออกและการส่งต่อ ด้วยระเบียบด้านศุลกากรที่น้อยที่สุด ซึ่งพื้นที่เขตปลอดอากรดังกล่าวตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของท่าอากาศยานครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 660,572 ตารางเมตร หรือ 413 ไร่ ให้บริการขนส่งสินค้าแบบเบ็ดเสร็จในที่เดียว (One Stop Service)
นอกจากความพร้อมด้านพื้นที่ เขตปลอดอากรแห่งนี้ยังมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัย ซึ่งการจัดการคลังสินค้ารูปแบบใหม่นี้ไม่เพียงช่วยกระตุ้นการทำธุรกิจให้คึกคักยิ่งขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนค่าภาษีอากร แต่ยังตอกย้ำศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการค้าและการขนส่งของภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.freezonethaiairport.com
หรือ AOT call center: 172
