ในงานแสดงสินค้าดังกล่าวมีบริษัทจากแคนาดาสนใจสินค้าของคุณ B แต่ครั้งนั้นยังไม่ได้ตกลงซื้อขายกัน ประกอบกับคุณ B เองก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเพราะไม่เคยติดต่อค้าขายกันมาก่อน แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือนคุณ B ได้พบผู้ซื้อรายนี้อีกครั้งในงานแสดงสินค้าที่ฮ่องกง คราวนี้คุณ B เริ่มสนใจที่จะทำการค้ากับผู้ซื้อรายนี้ จึงได้ศึกษาข้อมูลของบริษัทดังกล่าว พบว่าก่อตั้งมานานกว่า 40 ปีแล้ว จึงตกลงทำสัญญาซื้อขายโดยให้ผู้ซื้อชำระเงินล่วงหน้าบางส่วนก่อน พร้อมทำประกันการส่งออกไว้ ก่อนจัดส่งสินค้าไปให้ลูกค้าในเดือนพฤศจิกายน
แต่แล้วในเดือนธันวาคมมีจดหมายจากประเทศแคนาดาส่งถึงคุณ B แจ้งว่าบริษัทผู้ซื้อจากแคนาดารายนี้กำลังล้มละลาย ซึ่งหมายความว่าคุณ B จะไม่ได้รับเงินค่าสินค้าจากการขายของในครั้งนี้ แต่โชคดีที่คุณ B ได้ตัดสินใจทำประกันการส่งออกไว้ ความเสียหายจึงมีไม่มากนัก ซึ่งผู้ซื้อจากแคนาดารายนี้ไม่ได้สั่งซื้อสินค้าจากคุณ B เพียงรายเดียว แต่ได้หว่านคำสั่งซื้อก่อนล้มละลายไปยังผู้ส่งออกไทยหลายรายในคราวเดียวกัน
จากเหตุการณ์นี้จะเห็นได้ว่าคุณ B มีความรอบคอบในการทำธุรกิจ ทั้งการศึกษาข้อมูลคู่ค้าในเบื้องต้น และการตัดสินใจทำประกันการส่งออก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ส่งออกไม่ควรละเลย เพื่อช่วยป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
ดังนั้น หากผู้ส่งออกได้รับคำสั่งซื้อมาแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าจะค้าขายด้วยดีหรือไม่ สามารถติดต่อธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM Bank เพื่อให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลคู่ค้าในเบื้องต้น และหากสนใจทำประกันการส่งออก EXIM Bank มีบริการประกันส่งออกทันใจ (Instant SMEs Export Insurance) ที่อนุมัติ
รวดเร็วภายใน 1 วัน วงเงินรับประกัน 500,000 บาทต่อรายผู้ซื้อ ด้วยทุนประกันสูงถึง 1 ล้านบาท เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ผู้ประกอบการหรือผู้ส่งออกคลายกังวลไปได้มาก
สนใจติดต่อฝ่ายรับประกันการส่งออก EXIM Bank โทร. 0-2271-3700 ต่อ 1731-174
