เมื่อชีวิตต้องเลือกระหว่างความมั่นคงกับการเสี่ยงทำตามฝัน ดีไซเนอร์ “รุ่นใหญ่” คนนี้กล้าลุกขึ้นมาเดินตามความฝัน ตัดสินใจออกจากงานราชการที่ใคร ๆ บอกว่ามั่นคงด้วยเหตุผลสั้น ๆ ว่า “ไม่ลองก็ไม่รู้” เพื่อพิสูจน์ว่าเราสามารถเลือกชีวิตอย่างที่ต้องการได้จริง ๆ ปัจจุบันแบรนด์ Black Sugar ไปไกลระดับสากล กับการปรากฏโฉมล่าสุดบนรันเวย์ระดับโลกในงาน MQ Vienna Fashion Week ปี 2016 ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
ใครจะเชื่อว่าที่มาของธุรกิจ เกิดจาก “จักรเย็บผ้าตัวเดียว”
จากความต้องการหารายได้เสริมโดยเริ่มจากสิ่งที่รักคือเรื่องแฟชั่น คุณเมได้เข้าไปช่วยเพื่อนออกแบบเสื้อผ้าเด็กส่งออก จนขยับขยายออกมาทำโรงงานเล็ก ๆ ของตัวเอง แม้ที่ผ่านมาธุรกิจมีล้มลุกคลุกคลานบ้าง แต่แรงผลักดันภายในใจพาให้คุณเมหาเส้นทาง “ที่ใช่” ของตัวเองเจอ
“Black Sugar และ Botanique เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน แต่ต่างกันที่สไตล์ เสื้อผ้าขาวดำของ Black Sugar พี่ทำขึ้นมาโดยไม่ได้หวังให้คนทั้งหมดมาชอบหรอก แต่เราเชื่อว่าต้องมีกลุ่มคนที่ชอบเหมือนเราบ้าง ก็เลยลองดู ส่วน Botanique ก็ยังเป็นอีกสไตล์ที่พี่ชอบอยู่ คือเสื้อผ้าแนวธรรมชาติ เบาสบาย สีเอิร์ธโทน ก็เลยตัดสินใจสร้างทั้ง 2 แบรนด์ขึ้นมาพร้อมกัน”
ถึงแม้ชีวิตที่ผ่านมาต้องอยู่ในกรอบด้วยอาชีพที่เลือกเพื่อความมั่นคงตามค่านิยมของคนสมัยหนึ่ง แต่กรอบที่ว่าก็บดบังพลังสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในตัวคุณเมไม่ได้
“คำว่าพรสวรรค์ พี่เชื่อว่ามันมีอยู่ในตัวคนทุกคน เพียงแต่คุณจะหาจังหวะหรือช่องทางที่จะหยิบพรสวรรค์นั้นขึ้นมาใช้ได้หรือเปล่า หาทางกระตุ้นและลองใช้ความสามารถของ “คำว่าพรสวรรค์ พี่เชื่อว่ามันมีอยู่ในตัวคนทุกคน เพียงแต่คุณจะหาจังหวะหรือช่องทางตัวเองไปเรื่อย ๆ แล้วจะเจอทางเอง”
ด้วยการสนับสนุนของครอบครัว บวกกับความคิดสร้างสรรค์ที่จะใช้ตัวเองและกลุ่มเพื่อนเป็น “แบบ” ในการนำเสนอสินค้าจึงเกิดเป็นภาพลักษณ์ใหม่ของเสื้อผ้าแบรนด์ Black Sugar ขึ้นมา ซึ่งถือเป็นจุดขายที่เรียกกระแสฮือฮาได้สำเร็จ ทุกวันนี้ยอดขายของทั้ง 2 แบรนด์ มีสัดส่วนของลูกค้าในประเทศ 40% และลูกค้าต่างประเทศ 60% โดยได้รับความนิยมในหลายๆ ประเทศ เช่น กรีซ อินเดีย ไต้หวัน คูเวต ดูไบ เกาหลี ซึ่งมีคนเกาหลีชื่นชอบถึงขั้นมาขอซื้อแบรนด์ BLACK SUGAR ไปเปิดที่ประเทศเกาหลีอีกด้วย
“เสื้อผ้าของพี่จริงๆ ไม่ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายด้วยอายุ แต่เสื้อผ้ามันขายสไตล์ให้กับกลุ่มคนที่ชอบแบบเดียวกันมากกว่า ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร ถ้าคุณชอบสไตล์นี้เราก็พร้อมให้บริการเสมอ”
การได้ร่วมแสดงสินค้าในงาน BIFF & BIL (Bangkok International Fashion Fair & Bangkok International Leather Fair) ของ DITP เป็นช่องทางที่ทำให้เจ้าของ ViennaFashion Week มาเห็นเสื้อผ้าของ Black Sugar และชวนคุณเมไปเดินแฟชั่นโชว์ที่นั่น “การได้ร่วมงาน BIFF & BIL ถือเป็นช่องทางที่ดีที่ผู้ประกอบการได้มีโอกาส
นำเสนอผลงานของตัวเอง สำหรับผู้ประกอบการที่อยากขยายสินค้าในตลาดต่างประเทศ แนะนำให้ขอคำปรึกษาจากภาครัฐด้วย เพราะเขาพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว อย่างพี่มีโอกาสได้ไปโชว์ผลงานในต่างประเทศก็เพราะเข้าร่วมงาน BIFF & BILนี่แหละ”
คำว่า Active Senior ในมุมมองของคุณเม คือ การที่คนเราใช้ชีวิตให้เป็นสุข ไม่ยึดติดกับคำว่าสูงอายุหรือวัยเกษียณ และคำว่าหมดไฟไม่เคยอยู่ในพจนานุกรมชีวิตของเธอ
“3 คำที่บ่งบอกความเป็นพี่ คือ สู้ แปลก และบันเทิง ง่าย ๆ คือ เราอยากใช้ชีวิตให้คุ้ม อยากทำอะไรได้ทำ อยากไปไหนได้ไป โดยทั้งหมดไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แล้วถ้าเรามีจิตใจที่เบิกบาน วิถีชีวิตก็จะสดใสเบิกบานไปเอง บางคนชอบกำหนดว่าอายุเท่านี้ต้องทำแบบนี้ หรือหยุดทำแบบนั้น วัยเกษียณเป็นวัยที่ต้องอยู่เฝ้าบ้านเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน หรือใช้ชีวิตตามวิถีที่คนเขาบอกต่อ ๆ กัน ซึ่งพี่ไม่เคยคิดแบบนี้เลยนะ”
นี่จึงเป็นที่มาของแบรนด์ Black Sugar ซึ่ง Black แสดงถึงความเข้มแข็ง ส่วน Sugar คือ ความหวานที่ซ่อนอยู่ พอมารวมกันแล้วก็กลายเป็นความหวานเท่ สะท้อนความเป็นตัวตนของคุณเมได้อย่างชัดเจนที่สุด และความหวานเท่นี้เองที่ทำให้ใคร ๆ ต่างก็หลงรักผลงานดีไซน์ของเธอ
จากนี้ หากใครที่มองว่าอายุเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้และทำตามฝัน คงต้องลองกลับไปทบทวนกันใหม่ดูแล้วละ
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม เข้าชมได้ที่ www.facebook.com/blacksugarbrand