ข้อมูลจากรายงาน “Wealth-X” บริษัทวิจัยตลาดเฉพาะกลุ่มที่เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์กลุ่มอภิมหาเศรษฐี หรือคนที่มีสินทรัพย์เพื่อการลงทุน (ไม่รวมทรัพย์สินส่วนตัว) มูลค่าตั้งแต่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.25 แสนล้านบาทขึ้นไป เมื่อไล่เรียงดูจะพบว่ามหาเศรษฐีระดับนี้จะใช้เงินแค่ 4% ซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือย ซึ่งหากไม่นับรวมของ
ที่มีมูลค่าสูงมากๆ เช่น เรือยอร์ช เครื่องบิน และอสังหาริมทรัพย์สุดหรู นักช้อปกระเป๋าหนักเหล่านี้ก็จะทุ่มเงินไปกับ “เครื่องประดับและนาฬิกา” มากที่สุด
หากพุ่งตรงไปที “อินเดีย” เป้าหมายหลักแห่งหนึ่งที่กระทรวงพาณิชย์ ต้องการคือเจาะกลุ่ม “Super-Rich”
คุณจิตติมา นาคมโน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเจนไน ประเทศอินเดีย ให้ข้อมูลว่า กลุ่มมหาเศรษฐีชาวอินเดียที่มีรายได้สุทธิเกิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (35 ล้านบาท) ที่จัดเป็นกลุ่ม Super-Rich มีอยู่ราว ๆ 250,000 ครัวเรือน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 480,000 ครัวเรือนในปี 2563 ซึ่งคนเหล่านี้มักจะอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ เช่น มุมไบ นิวเดลี แต่ตอนนี้เริ่มมีมากขึ้นในเมืองอื่น ๆ เช่น เจนไน ไฮเดอราบัด กัลกัตตา บังกาลอร์ ปูเน เป็นต้น
“คนรวยทางภาคเหนือของอินเดียจะนิยมซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนม เครื่องประดับ รถยนต์หรูหรามีราคา คุณภาพชั้นเลิศ และนิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ส่วนมหาเศรษฐีแถบอินเดียใต้ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม จะใช้เงินซื้อของเพื่อการลงทุนในอนาคต เช่น เครื่องประดับทอง หรืออสังหาริมทรัพย์มากกว่า”
คุณจิตติมา แนะนำว่า มีสินค้าและบริการหลายกลุ่มที่ผู้ประกอบการไทยสามารถนำเสนอให้ Super-Rich ชาวอินเดียได้ เช่น เครื่องประดับ สินค้าไลฟ์สไตล์ บริการจัดงานแต่งงานในเมืองไทยที่ชาวอินเดียฐานะดีนิยมมาก รวมไปถึงบริการความงามลดน้ำหนัก และสปา เนื่องจากสถาบันความงามของไทยมีศักยภาพมาก
นอกจากตลาดอินเดียแล้ว กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ยังได้ช่วยผู้ประกอบการบุกเบิกตลาด Super-Rich ในตะวันออกกลาง ด้วยการประเดิมร่วมงาน Jewellery Arabia 2015 ที่ประเทศบาห์เรน เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ยิ่งใหญ่ของตะวันออกกลาง มีผู้เข้าชมงาน 48,717 คน และมีบริษัทไทยนำสินค้าไปร่วมจัดแสดงประมาณ 24 – 25 บริษัท
ขณะเดียวกัน DITP ได้จัดงาน Thai Night ในช่วงดังกล่าว โชว์เครื่องประดับ และมีวิดีโอนำเสนอการออกแบบและสร้างสรรค์เครื่องประดับโดยช่างฝีมือชาวไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องความละเอียดประณีต ซึ่งเรียกความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานได้อย่างมาก ถึงจุดนี้ต้องบอกว่า “Super-Rich” เป็นตลาดเป้าหมายที่มีอนาคตไกล ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน จึงเป็นความท้าทายใหม่ของผู้ประกอบการไทยที่ไม่ควรมองข้าม
